Corn snake ?
วิธีการเลี้ยง งูคอร์นสเนคเบื้องต้น
1. สถานที่เลี้ยงอาจเป็นตู้กระจกหรือกล่องพลาสติกใสเจาะรู แล้วแต่สะดวก อากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวก และปิดสนิทเนื่องจากงูคอร์นสเนคสามารถหลบหนีตามขอบตู้หรือฝากล่องที่ปิดไม่สนิทได้ ควรตั้งไว้ในที่ๆมีอุณหภูมิที่ไม่ร้อนเกินไป โดนแสงได้แต่ไม่ควรไว้ใกล้พื้นที่ที่มีแดดเพราะจะทำให้ร้อนจนเป็นอันตรายต่องูได้
2. การจัดสถานที่เลี้ยง ในตู้เลี้ยงควรมี ถ้วยน้ำ วัสดุรองพื้น ไฮด์บอคหรือที่หลบเหมือนถ้ำ ไว้ให้งูได้ซ่อนตัว เพื่อลดความเครียด ( มีหรือไม่มีก็ได้ ) กิ่งไม้ตกแต่งแล้วแต่สะดวกครับ
3. ขนาดของตู้และกล่องเลี้ยงควรมีขนาดเหมาะสมกับขนาดงูไม่ใหญ่เกินไปหรือเล็กเกินไป หากขนาดของสถานที่เลี้ยงใหญ่เกินอาจทำให้การล่าเหยื่อ หรือการหาอาหารใช้พื้นที่มากเกินไปจนจับไม่ได้หรือหาไม่เจอ หากเล็กเกินไปอาจทำให้การเจริญเติบโตของงูไม่เต็มที่ ดังนั้นควรเลือกขนาดกล่องให้เหมาะสม โดยการค่อยๆขยายขนาดของกล่องหรือไห้เหมาะกับขนาดงูที่เราเลี้ยง เช่น งูยาว 20 ซม. อาจกล่องขนาด กว้าง 15 ซม. ยาว 30 ซม.เป็นต้น
4. วัสดุรองมีหลายชนิดให้เลือก เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์ ขี้เลื่อย เปลือกไม้ เป็นต้น แล้วแต่ความชอบ และการดูแลความสะอาดของแต่ละคนครับ เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์ทำความสะอาดง่าย ราคาถูก แต่ขาดความสวยงาม หรือขี้เลื่อย ดูมีความเป็นธรรมชาติ ตกแต่งได้ ทำความสะอาดได้เป็นจุด แต่มีข้อเสียเรื่องฝุ่น และเวลางูกินอาหารอาจติดเข้าไปพร้อมอาหารได้ครับ
5. อาหาร แนะนำให้เป็นหนู ให้ได้ทั้งเป็นและแช่ เพราะหนูมีสารอาหารที่งูต้องการครบถ้วน หากหาไม่ได้แนะนำให้ใช้ลูกเจี๊ยบ หรือนกกระทา ทั้งตัว เพื่อให้ได้สาราหารที่พียงพอ ไม่แนะนำให้ใช้เนื้อไก่ตามท้องตลาดมาเป็นอาหารเนื่องจากจะเกิดผลตามมาแก่งูภายหลังได้
6. ระยะเวลาการให้อาหาร ให้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง เมื่องูย่อยหมดโดยสังเกตจาก อึงูครับเมื่องูอึแสดงว่างูย่อยหมดแล้วสามารถอุ้มเล่น หรือให้อาหารมื้อต่อไปได้ครับ จำนวนที่ให้ สามารถสังเกตุจากอาการของงูเช่นกินแล้วยังเลื้อยหาอาหารอยู่อาจลองวางอาหารเพิ่มอีก หากไม่กินให้เก็บออก ข้อควรระวัง ในงูบางตัวที่มีความตะกละมากอาจกินอาหารจนเกินความพอดีทำให้ย่อยไม่ทัน อาจเป็นอันตรายต่องูได้ แนะนำให้น้อยๆแต่บ่อยครั้งดีกว่า
7. ขนาดของอาหารไม่ควรจะใหญ่กว่าสองเท่าของหัวงู หากใหญ่เกินไปอาจเป็นอันตรายต่องูได้
8. การลอกคราบของงู โดยปรกติแล้วในงูเล็กจะลอกคราบ 1-2ครั้งต่อเดือนแล้วแต่ความสมบูรณ์ของงูแต่ละตัว และจะลดความถี่เมื่อมีอายุมากขึ้น ขณะงูเข้าคราบไม่ควรไม่ยุ่งหรืออุ้มงู เพราะจะทำให้งูเครียดจนอาจทำให้การลอกคราบเลื่อนเวลาออกไป และคอยสังเกตให้ถ้วยน้ำอยู่เสมอ เพราะงูใช้ความชื้อนในการช่วยลอกคราบได้ง่ายขึ้น
9. การดูแลสุขภาพ ควรนำงูไปพบแพทย์เพื่อถ่ายพยาธิ และโปรโตซัว เพื่อสุขภาพที่ดีของงู
10. ข้อควรระวัง ควรงดการจับและการอุ้มเล่น เมื่องูเข้าคราบและ หลังจากกินอาหารเนื่องจากโดยสัญชาติญาณของงูแล้ว เมื่อกินเหยื่อจะทำให้เคลื่อนไหวยาก เมื่อเราไปอุ้มทำให้งูเดความเครียดต้องการหนีจึงจำเป้นต้องสำรอกอาหารที่กินเข้าไปเพื่อที่จะได้เคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น ในการสำรอกแต่ละครั้งจะมีน้ำย่อยตามาด้วยอาจทำให้เกิดอันตรายต่อหลอดลมของงูได้